อันตรายจากก๊าซธรรมชาติ

ก๊าชธรรมชาติ

ในโลกที่เต็มไปด้วยมลภาวะฝุ่นละอองและก๊าซพิษต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาดและสภาวะต่าง ๆ ที่รุนแรงต่อโลกที่เราอาศัยอยู่ แหล่งทรัพยากรในธรรมชาติที่เป็นพลังงานไม่มีวันหมดหายไปจากโลกเริ่มร่อยหรอจากการกระทำของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ที่มีจิตสำนึกในการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติที่เริ่มมีอยู่จำกัดอย่างเห็นแก่ตัวและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมน้อยลง จนในปัจจุบันแทบจะไม่หลงเหลือแหล่งพลังงานบริสุทธิ์ตามธรรมชาติอีกแล้ว รวมทั้งก๊าซธรรมชาติที่หมุนเวียนอยู่ในชั้นบรรยากาศของโลก เนื่องจากในปัจจุบันมีการปนเปื้อนสารเคมีอันตรายที่ลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศอย่างหนาแน่น ปกคลุมชั้นบรรยากาศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของโลกมากมายตัวอย่างเช่น สภาวะโลกร้อน เป็นต้น 

ที่มาของก๊าซธรรมชาติ 

ถึงแม้โลกของเราจะอยู่ในขั้นวิกฤตเพียงใด แต่ก็ยังมีผู้ประกอบการนักลงทุนรายใหญ่ทั้งหลายยังคงขุดเจาะนำมันปิโตรเลียม เพื่อนำก๊าชธรรมชาติที่อยู่ใต้พิภพของโลกนำไปใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ โดยการนำไปแปรเปลี่ยนมาเป็นพลังงานรูปแบบอื่น ๆ เนื่องจากมีความต้องการพลังงานอย่างไม่มีขีดจำกัดของมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ รวมทั้งพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งล้วนแล้วแต่นำมาใช้ทดแทนการธรรมชาติหรือพลังงานไฟฟ้ารูปแบบอื่น ๆ ที่ต้องมีการสูญเสียค่าใช้จ่ายและถูกนำมาเป็นต้นทุนเพื่อใช้ในการผลิตที่สูง ผู้ประกอบการและนักธุรกิจหลายหลายท่านจึงเลือกใช้วิธีนี้เพื่อให้ได้ก๊าซธรรมชาติและพลังงานมาโดยไม่ต้องสูญเสียเงินทุนในจำนวนมหาศาลและอาจช่วยลดความซับซ้อนและกำลังการผลิตให้น้อยลงได้ แต่ก็ยังมีนักลงทุนหลายท่านที่ยังเล็งเห็นและมุ่งเน้นแต่ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจและผลประกอบการของตนเพียงเท่านั้น ไม่ได้ใส่ใจสิ่งแวดล้อมหรือพลังงานทรัพยากรธรรมชาติเท่าที่ควร จึงมีการปล่อยของเสียก๊าซพิษต่าง ๆ ที่หลงเหลือจากกระบวนการผลิตออกสู่แหล่งต่าง ๆ ของธรรมชาติ 

ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำ ลม ฟ้า อากาศ ซึ่งสารเคมีหรือสารพิษที่อยู่รอยคละคลุ้งในอากาศที่ถูกปล่อยออกมานั้นจะเข้าไปทำลายชั้นบรรยากาศทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นในเวลาต่อมา รวมทั้งยังอาจส่งผลต่อระบบหายใจและระบบประสาทของสิ่งมีชีวิตได้ โดยเฉพาะมนุษย์และสัตว์ จนสูญเสียสมดุลของทรัพยากรอย่างก๊าชธรรมชาติในอนาคตได้ เราอาจจะไม่มีอากาศที่ดีและบริสุทธิ์เพื่อใช้ในการหายใจ เนื่องจากเป็นอากาศที่มีก๊าซที่เป็นมลพิษปะปนอยู่ ดังนั้นหากเราคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาวตรงจุดนี้ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการเราควรใส่ใจธรรมชาติ เล็งเห็นถึงความยากลำบากและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จากการกระทำของธุรกิจของตนเอง ร่วมสร้างจิตสำนึกให้กับบุคลากรภายในบริษัท เพื่อให้รักษาและดูแลสมดุลของธรรมชาติต่อไป โดยให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดและไม่สร้างผลกระทบให้แก่ผู้อื่น