จะซื้อรถมือสองต้องอ่าน เช็กอย่างไรว่ารถคันนั้นเคยเจอน้ำท่วมทั้งคันมาก่อน

ประกันภัย รถยนต์

เราทุกคนทราบกันดีว่าการซื้อรถรุ่นใหม่สักคันนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่จะนำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายอีกมากมาย ไม่เพียงแค่จะต้องเตรียมสำรองเงินไว้สำหรับการผ่อนค่างวดรถเท่านั้น แต่ยังต้องเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องและจำเป็นอย่างประกันภัยรถยนต์ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถตามระยะด้วย ภาระที่ค่อนข้างหนักหน่วงแบบนี้ ทำให้บางคนคิดว่าการซื้อรถมือสองมาใช้ในตอนนี้น่าจะเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจมากกว่า

แต่การซื้อรถมือสองนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่ตรงที่ว่า เราไม่รู้ว่ารถที่เรากำลังจะซื้อนั้นแท้จริงสภาพรถเป็นอย่างไร เคยผ่านการชนหรือเสียหายมาจากอะไรบ้าง ที่น่ากังวลที่สุดเลยก็คือ รถเจอน้ำท่วมทั้งคันมาก่อนหรือไม่ ถ้ารถเคยจมน้ำเพราะน้ำท่วมหรือเคยตกน้ำมา โอกาสที่รถจะมีสภาพไม่สมบูรณ์และสร้างปัญหาให้เจ้าของรถต้องหนักใจก็จะมีเสมอ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่ารถมือสองคันนั้นเคยเจอน้ำท่วมทั้งคันมาก่อนหรือไม่ มาดูวิธีตรวจสอบกัน

1.ห้องเครื่องเรื่องที่ต้องดู

ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจะซื้อรถมือสองคันใด ๆ คุณควรจะต้องมีการตรวจสอบสภาพห้องเครื่องด้วยตัวคุณเองก่อน ซึ่งคุณจะสามารถสังเกตได้ หากว่ารถคันนั้นมีรอยคราบน้ำหลงเหลือให้เห็นในบางจุดของห้องเครื่อง หรือบริเวณหัวนอตของอุปกรณ์ต่าง ๆ มีสนิมขึ้นค่อนข้างมากและชัดเจน ถ้าคุณสังเกตเห็นร่องรอยเหล่านี้ที่ห้องเครื่อง ก็ให้คิดไว้ก่อนเลยว่า มีความเป็นไปได้ที่รถคันนั้นอาจจะเคยจมน้ำหรือถูกน้ำท่วมมิดคันมาก่อน

หากไม่ชำนาญเรื่องรถ ไม่แน่ใจว่าจะตรวจสอบในส่วนของห้องเครื่องได้ละเอียดชัดเจนหรือไม่ ก็แนะนำว่าให้หาคนที่เชี่ยวชาญเรื่องรถไปเลือกรถเป็นเพื่อน และให้เขาช่วยตรวจสอบในส่วนนี้ ไม่ว่าจะพบร่องรอยเหล่านี้น้อยหรือมากเพียงใด ก็แนะนำว่าไม่ควรรีบตัดสินใจซื้อรถมือสองคันนั้น

การที่สภาพรถไม่สมบูรณ์ก็อาจทำให้การขับขี่ไม่ปลอดภัย นอกจากจะเสี่ยงแล้วบางทีรถเสียขึ้นมาอาจจะซ่อมยากด้วย ถ้าเสียหายเพราะอุบัติเหตุถึงแม้ประกันภัย รถยนต์จะช่วยจ่ายแล้ว บางทีก็อาจจะยังไม่เพียงพอ เพราะหากมีการรื้อห้องเครื่องยนต์ใหม่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงมากทีเดียว

2.สังเกตเรื่องสนิมใต้ท้องรถ

จุดต่อมาก็ให้ดูเรื่องของสนิมใต้ท้องรถ ถ้าที่ใต้ท้องรถมีสนิมขึ้น ตรงท่อไอเสียก็เริ่มมีปรากฏรอยสนิมให้เห็น ตรงนี้ก็บ่งชี้ได้เหมือนกันว่ารถอาจเคยจมน้ำมา หรือไม่ก็ต้องเจอน้ำท่วมบ่อย ใต้ท้องรถเป็นจุดแรกที่จะสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น ถ้าเริ่มมีสนิมขึ้นโอกาสที่ชิ้นส่วนต่าง ๆ จะเริ่มผุพัง ถ้าพบสนิมในบริเวณนี้ก็ควรเลี่ยงซื้อรถคันนั้นได้เลย

3.จับกลิ่นที่ห้องโดยสาร

หลังจากพิจารณาดูส่วนต่าง ๆ ภายนอกรถแล้ว ก็ลองเข้ามาข้างในห้องโดยสารกันบ้าง ถ้ารถยังมีอับ ๆ ชื้น ๆ ก็เป็นสัญญาณที่บอกว่าโอกาสที่รถคันนี้จะเคยจมน้ำก็มีเช่นกัน แต่แค่กลิ่นอับชื้นบางทียังไม่แน่ใจก็ให้สังเกตที่บริเวณรางเบาะร่วมด้วย ซึ่งถ้ารางเบาะมีสนิมหรือดูออกเลยว่ามีการทาสีใหม่ปกปิด ก็มั่นใจได้เลยว่ารถเคยจมน้ำมาแน่นอน

เหล่านี้คือวิธีเช็กรถมือสองว่าเคยจมน้ำหรือถูกน้ำท่วมมาหรือเปล่า ถ้าตรวจสอบตามนี้ก็จะทำให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อได้ไม่พลาด และอย่าลืมหากเลือกซื้อรถได้แล้วไม่ว่าจะรถใหม่หรือรถมือสองก็ตาม ก็ควรจะมีการทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้เสริมความมั่นใจในการเดินทางอีกชั้นหนึ่งด้วย รถมีประกันแม้จะไม่ใช่ประกันระดับสูงยังไงก็ดีกว่าไม่มี ทำไว้เถอะดีแน่นอน